วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
กรอบแนวคิดการวิจัย
กรอบแนวคิดในการวิจัย
รศ.พ.ต.อ.หญิง ดร.พัชรา สินลอยมา
กรอบแนวคิดการวิจัยคืออะไร มีการเขียนกรอบแนวคิดในการวิจัยอย่างไร
การสร้างกรอบแนวคิดในการวิจัย เป็นขั้นตอนของการนำเอาตัวแปรและประเด็นที่ต้องการทำวิจัยมาเชื่อมโยงกับแนวคิดทฤษฏีที่เกี่ยวข้องในรูปของคำบรรยาย แบบจำลองแผนภาพหรือแบบผสมการวาง กรอบแนวคิดในการวิจัยที่ดี จะต้องชัดเจน แสดงทิศทางของความสัมพันธ์ ของสิ่งที่ต้องการศึกษา หรือตัวแปรที่จะศึกษา สามารถใช้เป็นกรอบในการกำหนดขอบเขตของการวิจัย การพัฒนาเครื่องมือในการวิจัย รูปแบบการวิจัย ตลอดจนวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล หลักสำคัญของการเขียนกรอบแนวคิดการวิจัย คือ
1. กำหนดตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ ไว้ด้านซ้ายมือ พร้อมทั้งใส่กรอบสี่เหลี่ยมไว้ เพื่อให้สามารถแยกแยะตัวแปรที่ต้องการศึกษาได้
2. กำหนดตัวแปรตาม ไว้ด้านขวามือ พร้อมทั้งใส่กรอบสี่เหลี่ยมไว้ เพื่อให้สามารถแยกแยะตัวแปรที่ต้องการศึกษาได้
3.เขียนลูกศรชี้จากตัวแปรต้นแต่ละตัวมายังตัวแปรตามให้ครบทุกคู่ที่ต้องการศึกษา
กรอบแนวคิดในการวิจัย เป็นผลสรุปจากการศึกษาทฤษฏีและผลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อปัญหาการวิจัย ซึ่งผู้เสนอเค้าโครงสรุปเป็นแนวคิดของตนเองสำหรับการดำเนินการวิจัย ของตน โดยทั่วไปก่อนการกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย ผู้วิจัยจำเป็นต้องศึกษา ทฤษฏีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องให้มากพอว่ามีใครเคยทำวิจัยเรื่องทำนองนี้มาบ้างเขาทำอย่างไรและข้อค้นพบของการวิจัยมีอะไรบ้างแล้วนำมาประกอบการวางแผนการวิจัยของตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดกรอบในเชิงเนื้อหาสาระซึ่งประกอบด้วยตัวแปรและการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสำหรับการวิจัยเชิงพรรณา (Descriptive research) กรอบแนวคิดในการวิจัยอาจมีแต่การระบุเฉพาะตัวแปรว่ามีตัวแปรอะไรที่จะนำมาศึกษา กรอบแนวคิดดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนขอบเขตทางด้านเนื้อหาสารของการวิจัย ส่วนการวิจัยประเภทอธิบาย (Fxplanatory research) กรอบแนวคิดของการวิจัยมีการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วย
กรอบแนวคิดคือการประมวลความคิดรวบยอดของงานวิจัยว่างานวิจัยที่กำลังทำอยู่นี้ มีตัวแปรอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษาเป็นอย่างไร อะไรเป็นตัวแปรอิสระ อะไรเป็นตัวแปรตาม
รศ.พ.ต.อ.หญิง ดร.พัชรา สินลอยมา
กรอบแนวคิดการวิจัยคืออะไร มีการเขียนกรอบแนวคิดในการวิจัยอย่างไร
การสร้างกรอบแนวคิดในการวิจัย เป็นขั้นตอนของการนำเอาตัวแปรและประเด็นที่ต้องการทำวิจัยมาเชื่อมโยงกับแนวคิดทฤษฏีที่เกี่ยวข้องในรูปของคำบรรยาย แบบจำลองแผนภาพหรือแบบผสมการวาง กรอบแนวคิดในการวิจัยที่ดี จะต้องชัดเจน แสดงทิศทางของความสัมพันธ์ ของสิ่งที่ต้องการศึกษา หรือตัวแปรที่จะศึกษา สามารถใช้เป็นกรอบในการกำหนดขอบเขตของการวิจัย การพัฒนาเครื่องมือในการวิจัย รูปแบบการวิจัย ตลอดจนวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล หลักสำคัญของการเขียนกรอบแนวคิดการวิจัย คือ
1. กำหนดตัวแปรต้น หรือตัวแปรอิสระ ไว้ด้านซ้ายมือ พร้อมทั้งใส่กรอบสี่เหลี่ยมไว้ เพื่อให้สามารถแยกแยะตัวแปรที่ต้องการศึกษาได้
2. กำหนดตัวแปรตาม ไว้ด้านขวามือ พร้อมทั้งใส่กรอบสี่เหลี่ยมไว้ เพื่อให้สามารถแยกแยะตัวแปรที่ต้องการศึกษาได้
3.เขียนลูกศรชี้จากตัวแปรต้นแต่ละตัวมายังตัวแปรตามให้ครบทุกคู่ที่ต้องการศึกษา
กรอบแนวคิดในการวิจัย เป็นผลสรุปจากการศึกษาทฤษฏีและผลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อปัญหาการวิจัย ซึ่งผู้เสนอเค้าโครงสรุปเป็นแนวคิดของตนเองสำหรับการดำเนินการวิจัย ของตน โดยทั่วไปก่อนการกำหนดกรอบแนวคิดในการวิจัย ผู้วิจัยจำเป็นต้องศึกษา ทฤษฏีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องให้มากพอว่ามีใครเคยทำวิจัยเรื่องทำนองนี้มาบ้างเขาทำอย่างไรและข้อค้นพบของการวิจัยมีอะไรบ้างแล้วนำมาประกอบการวางแผนการวิจัยของตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำหนดกรอบในเชิงเนื้อหาสาระซึ่งประกอบด้วยตัวแปรและการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรสำหรับการวิจัยเชิงพรรณา (Descriptive research) กรอบแนวคิดในการวิจัยอาจมีแต่การระบุเฉพาะตัวแปรว่ามีตัวแปรอะไรที่จะนำมาศึกษา กรอบแนวคิดดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนขอบเขตทางด้านเนื้อหาสารของการวิจัย ส่วนการวิจัยประเภทอธิบาย (Fxplanatory research) กรอบแนวคิดของการวิจัยมีการระบุความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วย
กรอบแนวคิดคือการประมวลความคิดรวบยอดของงานวิจัยว่างานวิจัยที่กำลังทำอยู่นี้ มีตัวแปรอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่ศึกษาเป็นอย่างไร อะไรเป็นตัวแปรอิสระ อะไรเป็นตัวแปรตาม
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552
การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ Notebook
ทำอย่างไรจะให้คอมพิวเตอร์ Notebook ที่แสนรัก อยู่กับเราให้นานที่สุด
ความจำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันมีมากยิ่งขึ้นทุกวันๆจนบางทีอาจกลายเป็นปัจจัยหนึ่งเลยก็ว่าได้ การใช้งานกับคอมพิวเตอร์มักจะใช้ในการทำงานหรือการเรียน การประกอบอาชีพใดๆ ก็มักมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโน้ตบุ๊คที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย และก็นิยมใช้กันมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ฉะนั้นเราน่าจะมารู้จักวิธีดูแลรักษาเครื่องมือคู่ชีพของเรา ให้สามารถอยู่กับเราไปได้นานๆกันดีกว่า
เริ่มต้นจากข้อแรก
1.อย่าใช้งานนานเกินไปเนื่องจากโน้ตบุ๊คมีพื้นที่ในการระบายความร้อนค่อนข้างจำกัด แม้ในปัจจุบันผู้ผลิตโน้ตบุ๊คจะติดตั้งระบบพัดลมระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความร้อนบางส่วนสะสมอยู่ภายในเครื่องได้ ความร้อนเหล่านี้อาจส่งผลให้การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องมีอายุการใช้งานสั้นลงได้หากใช้โน้ตบุ๊คไประยะหนึ่ง ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรือรู้สึกว่าตัวเครื่องมีความร้อนสูงพอสมควรแล้วเราก็ควรปิดเครื่องเพื่อเป็นการพักเครื่องสักระยะหนึ่งก่อน แล้วจึงเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง น่าจะเป็นการใช้งานที่เหมาะสม
2.การกระทบกระเทือนเป็นศัตรูตัวฉกาจของโน้ตบุ๊ค
เมื่อมีความจำเป็นต้องพกพาโน้ตบุ๊คไปไหนด้วย การใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันโน้ตบุ๊คจากการกระทบกระเทือน การกดทับก็เช่นกัน มีผู้ใช้บางรายใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเดินทางซึ่งอาจทำให้กระเป๋าของเราถูกวางซ้อนจากกระเป๋าใบอื่นได้ หรืออาจถูกจับโยนจนทำให้จอภาพแตกได้ หากนำไปเข้าศูนย์ แม้จะอยู่ในระยะเวลารับประกัน ก็ไม่สามารถเคลมประกัน เพราะไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของตัวสินค้า ดังนั้นเวลาเดินทางควรเก็บใน้ตบุ๊คในกระเป๋าถือที่อยู่กับตัวตลอดเวลาดีกว่า
3.บำรุงรักษาจอ LCD
+ หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วหรือของแข็งสัมผัสหน้าจอ เนื่องจากโครงสร้างภายในของจอ LCD ประกอบด้วยชั้นแก้วบางๆ ผลึกคริสตัลเหลว และชั้นโพลาไรซ์กรองแสง ทำให้จอ LCD เป็นจอภาพที่ค่อนข้างบอบบางต่อการกระทบกระเทือนและแรงกด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือหรือของแข็ง
+ ทำความสะอาดจอภาพอย่างถูกวิธี โดยหาซื้อน้ำยาและผ้าที่ใช้สำหรับทำความสะอาดหน้าจอโดยเฉพาะ หรือถ้าไม่อยากเสียเงิน จะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ (เอาแค่ชื้นๆอย่าให้น้ำหยดเด็ดขาด) มาเช็ดทำความสะอาดหน้าจอก็ได้ โดยการเช็ดทำความสะอาด ควรเช็ดอย่างเบามือที่สุด และเช็ดไปทางเดียวกัน ห้ามเช็ดแบบหมุนวนเด็ดขาด เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนให้กับจอภาพได้
+ ห้ามฉีดน้ำหรือน้ำยาลงบนจอภาพโดยเด็ดขาด ควรฉีดน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดลงบนผ้าก่อนแล้วจึงนำไปเช็ด เพราะหยดหรือละอองน้ำอาจหลุดเข้าไปในช่องลำโพง คีย์บอร์ด และข้อต่อต่างๆอันอาจส่งผลให้เครื่องเสียหายได้
4.แบ็คอัพข้อมูลไว้ก่อน
เนื่องจากอาจมีความบกพร่องทางฮาร์ดแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และไวรัสที่อาจเข้าทำลายข้อมูล ดังนั้นการแบ็คอัพข้อมูล หรือทำการสำรองข้อมูล จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
5.ไม่ควรเสียบชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา
เราควรใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อนจึงจะชาร์ตใหม่ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ หรือบางรุ่นก็แนะนำว่าทุก 2-3 เดือน ให้ใช้แบตเตอรี่จนหมดหรือเกือบหมดสักครั้งก่อนจะชาร์ตใหม่
6.ทำความสะอาดโน้ตบุ๊คอยู่เสมอ
เนื่องจากโน้ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์ที่มีซอกมีมุมที่ฝุ่นผงมีโอกาสเข้าไปสะสมได้อยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น แป้นคีย์บอร์ด ช่องลำโพง หรือข้อต่อต่างๆเป็นต้น อุปกรณ์เสริมที่คุณควรมีก็คือ น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แปรงเล็กๆหรือหาเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กสักเครื่องไว้ใช้ก็ดี
7.หลีกเลี่ยงสิ่งสกปรก
ขณะใช้โน้ตบุ๊คควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ควรอยู่ใกล้กับสิ่งสกปรกต่างๆ หรือหากโน้ตบุ๊คเกิดมีคราบสกปรกเกิดขึ้นควรรีบทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดหรือผ้าชุบน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดทันที
8.ศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
คู่มือการใช้งานเป็นแหล่งข้อมูลอันมีค่าสำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊ค เพราะโน็ตบุ๊คแต่ละรุ่นอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราควรศึกษาคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊คอย่างละเอียด
9.หลีกเลี่ยงแผ่นดิสต์ที่ไม่สมบูรณ์
เพราะอาจทำให้ไม่สามารถนำแผ่นดิสต์ออกจากไดร์ฟได้
10.อย่าชม
ไม่ควรถอด, แกะ หรือแคะแกะชิ้นส่วนต่างๆของโน้ตบุ๊คโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือหมดประกันได้ ถ้าหากโน้ตบุ๊คมีปัญหา ควรส่งศูนย์ซ่อมทันทีไม่ควรพยายามแก้ไขเครื่องด้วยตนเอง
11.หากมีอาการผิดปกติ ควรเข้าศูนย์ทันที
หากใช้งานโน้ตบุ๊คอยู่ดีๆเกิดอาการผิดปกติทางด้านฮาร์ดดิสต์เช่น ไดร์ฟอ่านไม่ค่อยได้ หรืออ่านไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ได้ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้าน ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ ก็ควรรีบนำเครื่องเข้าศูนย์เพื่อปรึกษาปัญหาทันที
12.ต่ออายุการรับประกัน
เมื่อหมดอายุการรับประกัน ผู้ขายโน้ตบุ๊คบางรายอาจจะให้ต่ออายุการรับประกันเพิ่มขึ้นอีก 1-3 ปี โดยต้องเสียเงินเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง ก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับเครื่องเสียเมื่อหมดระยะเวลาการรับประกัน
ทั้งหมดก็เป็นการดูแลรักษาโน้ตบุ๊ค 12 วิธี ที่ท่านสามารถทำได้ด้วยตนเองง่ายๆและจะช่วยทำให้โน้ตบุ๊คที่เรารักคงอยู่กับเราไปได้อีกนานแสนนานเลยครับผม
ความจำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวันมีมากยิ่งขึ้นทุกวันๆจนบางทีอาจกลายเป็นปัจจัยหนึ่งเลยก็ว่าได้ การใช้งานกับคอมพิวเตอร์มักจะใช้ในการทำงานหรือการเรียน การประกอบอาชีพใดๆ ก็มักมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโน้ตบุ๊คที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย และก็นิยมใช้กันมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ฉะนั้นเราน่าจะมารู้จักวิธีดูแลรักษาเครื่องมือคู่ชีพของเรา ให้สามารถอยู่กับเราไปได้นานๆกันดีกว่า
เริ่มต้นจากข้อแรก
1.อย่าใช้งานนานเกินไปเนื่องจากโน้ตบุ๊คมีพื้นที่ในการระบายความร้อนค่อนข้างจำกัด แม้ในปัจจุบันผู้ผลิตโน้ตบุ๊คจะติดตั้งระบบพัดลมระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีความร้อนบางส่วนสะสมอยู่ภายในเครื่องได้ ความร้อนเหล่านี้อาจส่งผลให้การทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องมีอายุการใช้งานสั้นลงได้หากใช้โน้ตบุ๊คไประยะหนึ่ง ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรือรู้สึกว่าตัวเครื่องมีความร้อนสูงพอสมควรแล้วเราก็ควรปิดเครื่องเพื่อเป็นการพักเครื่องสักระยะหนึ่งก่อน แล้วจึงเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง น่าจะเป็นการใช้งานที่เหมาะสม
2.การกระทบกระเทือนเป็นศัตรูตัวฉกาจของโน้ตบุ๊ค
เมื่อมีความจำเป็นต้องพกพาโน้ตบุ๊คไปไหนด้วย การใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันโน้ตบุ๊คจากการกระทบกระเทือน การกดทับก็เช่นกัน มีผู้ใช้บางรายใส่โน้ตบุ๊คไว้ในกระเป๋าเดินทางซึ่งอาจทำให้กระเป๋าของเราถูกวางซ้อนจากกระเป๋าใบอื่นได้ หรืออาจถูกจับโยนจนทำให้จอภาพแตกได้ หากนำไปเข้าศูนย์ แม้จะอยู่ในระยะเวลารับประกัน ก็ไม่สามารถเคลมประกัน เพราะไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของตัวสินค้า ดังนั้นเวลาเดินทางควรเก็บใน้ตบุ๊คในกระเป๋าถือที่อยู่กับตัวตลอดเวลาดีกว่า
3.บำรุงรักษาจอ LCD
+ หลีกเลี่ยงการใช้นิ้วหรือของแข็งสัมผัสหน้าจอ เนื่องจากโครงสร้างภายในของจอ LCD ประกอบด้วยชั้นแก้วบางๆ ผลึกคริสตัลเหลว และชั้นโพลาไรซ์กรองแสง ทำให้จอ LCD เป็นจอภาพที่ค่อนข้างบอบบางต่อการกระทบกระเทือนและแรงกด จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้นิ้วมือหรือของแข็ง
+ ทำความสะอาดจอภาพอย่างถูกวิธี โดยหาซื้อน้ำยาและผ้าที่ใช้สำหรับทำความสะอาดหน้าจอโดยเฉพาะ หรือถ้าไม่อยากเสียเงิน จะใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ (เอาแค่ชื้นๆอย่าให้น้ำหยดเด็ดขาด) มาเช็ดทำความสะอาดหน้าจอก็ได้ โดยการเช็ดทำความสะอาด ควรเช็ดอย่างเบามือที่สุด และเช็ดไปทางเดียวกัน ห้ามเช็ดแบบหมุนวนเด็ดขาด เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนให้กับจอภาพได้
+ ห้ามฉีดน้ำหรือน้ำยาลงบนจอภาพโดยเด็ดขาด ควรฉีดน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดลงบนผ้าก่อนแล้วจึงนำไปเช็ด เพราะหยดหรือละอองน้ำอาจหลุดเข้าไปในช่องลำโพง คีย์บอร์ด และข้อต่อต่างๆอันอาจส่งผลให้เครื่องเสียหายได้
4.แบ็คอัพข้อมูลไว้ก่อน
เนื่องจากอาจมีความบกพร่องทางฮาร์ดแวร์ที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ และไวรัสที่อาจเข้าทำลายข้อมูล ดังนั้นการแบ็คอัพข้อมูล หรือทำการสำรองข้อมูล จึงเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
5.ไม่ควรเสียบชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา
เราควรใช้แบตเตอรี่ให้หมดก่อนจึงจะชาร์ตใหม่ เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ หรือบางรุ่นก็แนะนำว่าทุก 2-3 เดือน ให้ใช้แบตเตอรี่จนหมดหรือเกือบหมดสักครั้งก่อนจะชาร์ตใหม่
6.ทำความสะอาดโน้ตบุ๊คอยู่เสมอ
เนื่องจากโน้ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์ที่มีซอกมีมุมที่ฝุ่นผงมีโอกาสเข้าไปสะสมได้อยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะเป็น แป้นคีย์บอร์ด ช่องลำโพง หรือข้อต่อต่างๆเป็นต้น อุปกรณ์เสริมที่คุณควรมีก็คือ น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แปรงเล็กๆหรือหาเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กสักเครื่องไว้ใช้ก็ดี
7.หลีกเลี่ยงสิ่งสกปรก
ขณะใช้โน้ตบุ๊คควรหลีกเลี่ยงหรือไม่ควรอยู่ใกล้กับสิ่งสกปรกต่างๆ หรือหากโน้ตบุ๊คเกิดมีคราบสกปรกเกิดขึ้นควรรีบทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดหรือผ้าชุบน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดทันที
8.ศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด
คู่มือการใช้งานเป็นแหล่งข้อมูลอันมีค่าสำหรับผู้ใช้โน้ตบุ๊ค เพราะโน็ตบุ๊คแต่ละรุ่นอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราควรศึกษาคู่มือการใช้งานที่มาพร้อมกับโน้ตบุ๊คอย่างละเอียด
9.หลีกเลี่ยงแผ่นดิสต์ที่ไม่สมบูรณ์
เพราะอาจทำให้ไม่สามารถนำแผ่นดิสต์ออกจากไดร์ฟได้
10.อย่าชม
ไม่ควรถอด, แกะ หรือแคะแกะชิ้นส่วนต่างๆของโน้ตบุ๊คโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหายหรือหมดประกันได้ ถ้าหากโน้ตบุ๊คมีปัญหา ควรส่งศูนย์ซ่อมทันทีไม่ควรพยายามแก้ไขเครื่องด้วยตนเอง
11.หากมีอาการผิดปกติ ควรเข้าศูนย์ทันที
หากใช้งานโน้ตบุ๊คอยู่ดีๆเกิดอาการผิดปกติทางด้านฮาร์ดดิสต์เช่น ไดร์ฟอ่านไม่ค่อยได้ หรืออ่านไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่ไม่ได้ เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้าน ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ ก็ควรรีบนำเครื่องเข้าศูนย์เพื่อปรึกษาปัญหาทันที
12.ต่ออายุการรับประกัน
เมื่อหมดอายุการรับประกัน ผู้ขายโน้ตบุ๊คบางรายอาจจะให้ต่ออายุการรับประกันเพิ่มขึ้นอีก 1-3 ปี โดยต้องเสียเงินเพิ่มอีกก้อนหนึ่ง ก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องเสี่ยงกับเครื่องเสียเมื่อหมดระยะเวลาการรับประกัน
ทั้งหมดก็เป็นการดูแลรักษาโน้ตบุ๊ค 12 วิธี ที่ท่านสามารถทำได้ด้วยตนเองง่ายๆและจะช่วยทำให้โน้ตบุ๊คที่เรารักคงอยู่กับเราไปได้อีกนานแสนนานเลยครับผม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)